สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่เว็บบล็อกของซึบาซะ บล็อกนี้ไม่มีพิธีรีตรองนะครับ ซึบาซะนึกอยากจะเขียนอะไรก็เขียน ถ้าใครจะอ่านภาษาญี่ปุ่นได้ต้องมีพื้นฐานบ้างนะครับ ようこそ、ブログ japan-sanook する。

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。ความรู้สึก 感情「かんじょう」

สวัสดีเพื่อนๆ เฮ้อได้รับผลสอบวัดระดับแล้วเมื่อวาน ปรากฏว่าสอบตกกกกก จะร้องไห้ดีไหม พอดีซึบาสะยังสอบระดับ 3 อยู่ ข้อสอบที่เก็งไปไม่ออกเลยสักข้อ เลยต้องวิเคราะห์ข้อสอบเยอะเลย ผลออกมาได้ 226 คะแนน ถ้าจะผ่านระดับนี้ก็ต้องอย่างน้อย 240 คะแนน ถึงแม้จะเหลืออีกไม่กี่คะแนน ในเมื่อไม่ถึงยังไงก็ตกอยู่ดี ตั้งความหวังอยากจะต่อโททางด้านภาษาญี่ปุ่น แต่ถ้าไม่จบมาทางด้านนี้โดยตรงเห็นเขาบอกว่าต้องสอบระดับ 2 ผ่านเป็นอย่างน้อย แบบนี้ต้องรออีกนานเลย ไฟเริ่มมอดดดดละ ในเมื่อปีนี้ไม่ผ่านก็ต้องรอปีต่อไป ในเมื่อเราทำในสิ่งที่เรารักแต่เชื่อความรักนั้นจะพาเราไปสู่ที่ตั้งใจไว้ไม่เร็วก็ช้า

เข้าเรื่องเลยวันนี้คือจะพูดถึงเรื่องความรู้สึก อย่างที่บอกว่าเมื่อรู้ว่าตัวเองสอบไม่ผ่านก็เลยรู้สึกเศร้านิดหน่อย 悲しいです「かなしいです」 แต่ถ้าสุขภาพยังแข็งแรง 元気「げんきです」ก็ถือว่ายังโชคดีและดีใจ 「うれしいです」   ถึงแม้จะเศร้าวันนี้ก้ใช่ว่าจะไม่มีวันที่เป็นของเรา ยังไงก็จะสู้ต่อไปครับ

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。การงาน「仕事」

สวัสดีครับเพื่อน ๆเมื่อวานนี้ร้อนมากๆเลยครับตอนกลางคืนก็อบอ้าว เช้าตื่นมาอากาศรู้สึกสบายๆ เหมือนมีฝนตกทางอื่น นี้ก็ปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้วสัมผัสเลยว่าลมร้อนปีนี้ท่าทางจะเอาการ ฤดูแต่ละฤดูก็มีข้อดีของมันอยู่นะครับ อย่างน่าร้อนซึบาซะคุงจะชอบ อากาศน่านี้แบบว่า ท้องฟ้าสว่างสดใสแล้วมีร่มเงาของต้นไม้ ถ้าได้ไปเที่ยวทะเลจะชอบมาก ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็คงหาโอกาสยากหน่อย เอ๊ะหรือว่าง่ายเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี คนตกงานกันเพียบบางที่ก็ให้พนักงานหยุดงานเพิ่มอีกวัน เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ทั่วโลกก็ดีเหมือนกัน ทำให้คนให้กลับมามองว่าแท้ที่จริงแล้วไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกกลมๆ ใบนี้ขนาดเจ้าเศรษฐกิจอันดับ 1 อย่างอเมริกายังพินาศได้ขนาดนี้และเป็นต้นตอทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกแย่ไปด้วย ดังนั้นเราควรจะหันมามองปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมาก พอพูดถึงเรื่องการงาน วันนี้จะขอพูดถึงภาษาญี่ปุ่นเกี่ยวข้องกับการงานสักเล็กน้อย
ถ้าเราจะถามคนที่เรากำลังสนทนาด้วยว่า มีอาชีพหรือทำงานอะไร เราก็จะพูดว่า 仕事はなんですか?「しごとはなんですか?」 และถ้าจะตอบว่าเราทำงานอะไรก็จะขึ้นต้นด้วยอาชีพแล้วตามด้วยเดสนะครับ
サラリーマンです。 เป็นพนักงานเดินเงินเดือน サラリーマン แปลว่าพนักงานเงินเดือนนะครับ
อย่างถ้าน้องๆยังคงเรียนหนังสือก็จะเรียกว่ามีอาชีพเป็นนักเรียนอยู่ 学生「がくせい」แล้วถ้าเกิดไม่อยากเป็นลูกน้องใครอยากเป็นนายจ้างตัวเองละก็คือ 自営業「じえいぎょう」 ถ้าอยากเป็นเอนจิเนี่ยร์เพราะพวกญี่ปุ่นที่มาลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านนี้นะครับ エンジニア จะเห็นว่าเขียนด้วยอักษรคาตากานะเพราะมาจากภาษาต่างประเทศนะครับ
หรือคนญี่ปุ่นจะชอบทำงานบางเวลามากๆหรือที่เรียกว่า งาน Pass time パートタイム นักเรียนนักศึกษาบางคนทำงานเหล่านี้เพื่อเก็บเงินไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็เยอะแยะนะครับ   ถ้าอยู่บ้านเลี้ยงลูกดูแลบ้าน ก็คือ 主婦「しゅふ」อาชีพแม่บ้าน เป็นต้นนะครับ

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。รู้มาก่อนหรือเปล่าเกี่ยวกับการทักทาย「知ってましたか?」

握手のかわりに、日本人はおじぎをします。少なくとも 2~3 回。デバーとなどでは、おじぎは 30 度。


การทักทายของคนญี่ปุ่นใช้วิธีการโค้งคำนับแทนการจับมือ อย่างน้อยก็ 2-3 ครั้ง อย่างที่พนักงานที่ห้างสรพพสินค้าจะโค้งคำนับ 30 องศา

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。ประเทศ「国」

คำถามอีกคำถามที่เรามักจะใช้กันในการสนทนากับชาวต่างชาติ คือ คุณมาจากไหน? หรือว่า คุณมาจากประเทศอะไร?ใช่ไหมครับ

สมมติว่าซึบาสะกำลังคุยอยู่กับฝรั่งที่ทักทายกันได้สักพักแล้ว ซึบาสะเลยอยากรู้ว่าเขามาจากประเทศอะไร ก็จะถามเขาว่า

A:どこから来たのですか? 「どこからきたのですか?」
B:アメリカからきました。มาจากประเทศอเมริกา

ทีนี้ถ้าอยากจะถามว่าอยู่รัฐอะไรของอเมริกาจะถามว่า


A:アメリカのどこからきたのですか?

B:カリフル二アです。แคลิฟอเนีย

ในภาษาญี่ปุ่นตัวอักษรจะใช้อยู่ 3 ชนิดนะครับคือ ฮิรากานะ「ひらがな」 คาตาคานะ 「かたかな」 คันจิ 「漢字」   

จะสังเกตว่าในการเขียนชื่อประเทศอื่นๆที่ไม่ได้มีรากภาษาคล้ายกัน อย่าง เกาหลี จีน ญี่ปุ่น จะเขียนด้วยตัวอักษร かたかな นะครับ ยกตัวอย่างเช่น

タイ   ไทย
イギリス อังกฤษ
アメリカ อเมริกา
ファりビン ฟิลิบปินส์
カナダ แคนนาดา

日本「日本」 ญี่ปุ่น
中国「ちゅうごく」 จีน
韓国「かんこく」 เกาหลี




*****************************

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。การแนะนำเพื่อน「友達を紹介」

วันนี้รู้สึกขยันเป็นพิเศษเลยขอเขียนบล็อกต่อเลย ขณะที่รอผลสอบวัดระดับที่จะมาถึงเมืองไทยก็ราวๆปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้และ ของทุกปี ถ้าทางญี่ปุ่นยังใช้มาตรฐานเดิม แต่ได้ข่าวว่าไม่นานอาจจะเปลี่ยนระดับการสอบออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งตอนนี้มี 4 ระดับ ซึบาซะยังสอบระดับ 3 เองยังไม่ใช่ขั้นเทพอะไรนะครับขอออกตัวไว้ก่อน
โดยถ้านับจากยาก ---> ง่าย ก็จะเริ่มจาก 1 ,2, 3, 4 โดยระดับ 4 ขั้นพื้นฐานเลยนะครับ ระดับ 1 คือขั้นเทพสามารถที่จะสื่อสาร อ่านหนังสือราวๆกับคนญี่ปุ่นเลย ส่วนระดับ 2 ก็สามารถที่จะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นได้โดยไม่ลำบาก ส่วนระดับ 3 ก็สื่อสารขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ประมาณนี้นะครับ
เข้าหัวข้อกันเลยละกันนะครับ ต่อจากบทที่แล้วเรื่องของการแนะนำตัว เราแนะนำตัวเองไปแล้ว ต่อไปถ้าอยากจะแนะนำคนอื่น เพื่อนฝูง ให้คนอื่นรู้จักเราจะพูดกันยังไง
สมมติถ้าซึบาซะ มากับเพื่อนหลังจากแนะนำตัวเองก็จะพูดว่า 友達を紹介します「ともだちをしょうかいします」  และก็จะพูดต่อจากนั้นว่าเพื่อนชี่อ โน่น นั่น นี่ เช่น เพื่อนชื่อ ฮิโรกิ ก็จะพูดว่า こちらはひろきさんです。จะลงท้ายด้วย เดส นะครับเพื่อความสุภาพ และเป็นมาตรฐานเลยก็ว่าได้สำหรับคนที่เราเพิ่งรู้จัก
ต่ออีกหน่อย ถ้าเราอยากจะทราบชื่อคนอื่นแบบสุภาพๆหน่อยก็จะพูดว่า お名前は?「おなまえは」 ครับผม

。การแนะนำ「紹介」

วันนี้จะพูดถึงการแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำตัว แนะนำเพื่อน แนะนำอะไรต่างๆ การแนะนำในภาษาญี่ปุ่นก็จะใช้คำว่า 紹介「しょうかい」นะครับ

เรามาเริ่มจากการแนนำตัวเองกันก่อนเลย 自分紹介「じぶんしょうかい」
เวลาเราก็ใครเป็นครั้งแรก หรือไม่เคยเจอหรือรู้จักกันมาก่อน ในภาษาไทยถ้าจะพูดแบบเป็นทางการหน่อยเราจะทักทายว่า ยินดีที่ได้รู้จัก ใช่ไหมครับ ในภาษาญี่ปุ่นก็จะพูดว่า はじめまして  นะครับ มันจะดูออกเป็นทางการไปสักหน่อย แต่จริงๆแล้วเขาก็ใช้แบบนี้แหละครับ และถ้าเราจะบอกว่าตัวเองชื่ออะไร ก็จะบอกชื่อตัวเองก่อน แล้วค่อยตามด้วยคำว่า เดส นะครับ เช่น ซึบาสะ です。ไรงี้...

ส่วนถ้าจะตอบกลับไปว่า ยินดีที่ได้รู้จัก ก็จะพูดว่า よろしく ถ้าจะให้สุภาพขึ้นไปอีกก็ต่อด้วย お願いしますเช่นกันครับ ก็จะพูดว่า こちらこそ  


เป็นไงบ้างก็อย่างที่บอกตั้งแต่แรกนะครับว่า ซึบาซะอยากเขียนอะไรก็เขียน ซึบาซะตั้งใจเขียนโดยไม่มีคำอ่านภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เพื่อนๆที่ไม่มีพื้นอาจจะอ่านลำบากหน่อย แต่คิดว่าไม่ยากจนเกินไปและอีกอย่างเป็นการทบทวนตัวเองไปในตัว เพราะถ้าไม่เขียนอะไรเลยตัวซึบาซะ ก็จะลืม ถึงแม้เป้าหมายอันสูงสุดคือสามารถอ่านนวนิยายภาษาญี่ปุ่นได้อย่างซาบซึ้งแล้วก็จริง แต่คนเรามันก็ต้องมีขี้เกียจกันบ้างใช่ไหมครับ ก็อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบสนุกก็ฟังเพลง ดูการ์ตูน ละคร นะครับถ้าจะให้ตั้งหน้าตั้งตาศึกษามันก็ลำบากถ้าคนไม่ชอบจริงๆ ยังไงหวังว่าคงมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไม่มากก็น้อย

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。วันนี้คือวันอะไร 「今日は何曜日ですか?」

เรื่องวันในภาษาญี่ปุ่นจะคล้ายๆกับวันของภาษาไทยเรานะครับ ซึ่งแต่ละวันก็จะมีความหมายในตัวมันเอง
ซึ่งจะสังเกตว่าวันแต่ละวันจะลงท้ายด้วย ようび นะครับซึ่งถ้าจะพูดก็คือคำว่า "วัน" นั่นเอง เริ่มต้นด้วย

วันอาทิตย์ 日曜日「にちようび」 หมายถึง วันเริ่มต้น
วันจันทร์ 月曜日「げつようび」 หมายถึง พระจันทร์
วันอังคาร 火曜日「かようび」 หมายถึง ไฟ
วันพุธ 水曜日「すいようび」 หมายถึง น้ำ
วันพฤหัสบดี 木曜日「もくようび」 หมายถึง ไม้
วันศุกร์ 金曜日「きんようび」หมายถึง ทองคำ
วันเสาร์ 土曜日「どようび」หมายถึง ดิน

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。จะไปไหนเหรอ? 知ってましたか?

「どちらにお出かけですか?」などと言いますが、これ別にめずらしいことではありません。その答えも、「ちょっとそこまで」などと答えます。別にあなたの行動を栓策しているわけではありません。

จะไปไหนเหรอ? เป็นคำถามปกติสำหรับคนญี่ปุ่น โดยไม่ได้ระบุคำตอบเฉพาะเจอะจง ยกตัวอย่าง "จะไปแถวๆนี้" เป็นคำตอบที่ใช้บ่อยๆ มันไม่ใช่พฤติกรรมสอดรู้สอดเห็นอะไรเลย

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

。วันและคืน 「時間の流れ」

วันนี้ซึบาซะ อยากจะพูดถึงเรื่องกลางวันและกลางคืน ด้านมืดกับด้านสว่าง โลกเรามีสิ่งที่ดีและไม่ดีปนกัน ว้าววว อารมณ์ไหนเนี้ยวันนี้ แต่ก็จริงนอกจากสองด้านนั้นแล้วยังมีด้านที่เป็นสีเทาๆด้วย แต่ถ้าโลกนี้มีแค่เพียงด้านเดียวมันก็ไม่ดีใช่ไหมครับ ต้นไม้คงไม่สังเคราะห์แสงตลอดเวลาแน่ๆ ใช่ไหมครับ 555

วันนี้ 今日「きょう」ซึบาซะตื่นตั้งแต่เช้า 朝「あさ」 แต่หลังไก่โฮ่ 夜明け「よあけ」นิดเดียว หลังจากตื่นก็ทำ โน่น นั่น นี่ ล้างหน้าแปลงฟัน ปิ้งขนมปัง ชงกาแฟ วันนี้ซึบาสะเตียมตัวจะนั่งรถไฟไปเที่ยวแถวๆ ฮิโรชิม่า ซะหน่อย ดูเวลาอีกทีตะวันสายโด่งทีเดียวเกือบจะเที่ยง 昼間「ひるま」ซึบาสะสะพายกระเป๋าพร้อมกับกล้องถ่ายรูป แล้วปั่นจักรยานไปยังสถานีรถไฟ ซึบาสะนั่งรถไฟสักพักดูเวลาอีกทีอ้าวบ่ายแล้วเหรอนี่ 午後「ごご」

ซึบาสะเดินทางถึงที่หมาย เดินถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ สวยมากทีเดียว อาหารอร่อย ผู้คนมากมายเพราะวันนี้เป็นวันหยุดนั่นเอง รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินนี้ก็เย็นแล้ว 夕方「ゆうがた」 วันนี้กะว่าจะหาที่พักใกล้แถวนี่พรุ่งนี้ 明日「あした」ถึงจะไปเที่ยวที่อื่นต่อ  


พอมืดค่ำ 夜「よる」ซึบาซะออกไปหากินข้าวต้มแถวๆที่พักนะแหละก่อนจะกลับมานอนก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนซะแล้ว 真夜中「まよなか」ซึบาซะขอตัวนอนก่อนนะ お休みなさい



เรื่องทั้งหมดเป็นการแต่งขึ้นนะครับ.....